หน้าอัลกุรอาน 6

Al-Baqarah (2) : 30-37

 

30. และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มลาอิกะฮ์ว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง (53) ในพิภพ มลาอิกะฮ์ได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือดในพิภพกระนั้นหรือ (54)? ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ (55)

(53) คือนบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษยชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่ออาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้

(54) การที่มลาอิกะฮ์กล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่าเมื่อก่อนโน้นอัลลอฮฺเคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากเดิมเพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลกในการนี้ให้มลาอิกะฮ์เข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือด จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่

(55) อัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนบีอาดัม แต่มลาอิกะฮ์ไม่รู

 

31. และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามทั้งปวงให้แก่อาดัม (56) ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มะลาอิกะฮฺแล้วตรัสว่า จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง

(56) อัลลอฮ์ทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นบีอาดัมได้ทราบ

 

32. พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ์)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใด ๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

 

33. พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาที (บรรดามลาอิกะฮ์)ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้ว พระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและเป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผยและสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด

 

34. และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า พวกเจ้าจงสุญูด (57) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลีส (58) โดยที่มันไม่ยอมสุญูด และแสดงการโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิร์)

(57) หมายถึงการโน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใดเพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะอัลลอฮ์เท่านั้น

(58) เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน

 

35. และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม ! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เถิดและเจ้าทั้งสองจงบริโภคจากสวนนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ตามที่เจ้าทั้งสอง ปรารถนา และอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้ (59) (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง

(59) ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงชี้ให้อาดัมและเฮาวา ดู

 

36. ภายหลังจากชัยฏอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไป เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น (60) แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากสถานที่เคยพำนักอยู่ (61) และเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไป โดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน (62) และ (สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนัก และมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง (63)

(60) เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน

(61) ออกจากสวนสวรรค์

(62) บางส่วนของลุกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจขากอิบลีสที่จะมีต่อไป

(63) จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต

 

37. ครั้นอาดัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระผู้อภิบาลของเขา (64) แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขา แท้จริงพระองค์คือ ผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

(64) แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์

Powered by MakeWebEasy.com