หน้าอัลกุรอาน 1سورة الفاتحة مكية
وآياتها سبع
(1) ซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์
เป็นซูเราะฮ์มักกียะฮ์มี 7 อายะฮ์
ความหมายโดยสรุป
ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺเป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺมี 7 อายะฮ์โดยมติของปวงปราชญ์ ที่ใช้ชื่อว่า
ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ ก็เพราะว่าคัมภีร์เล่มนี้เริ่มด้วยซูเราะฮฺนี้ ซึ่งถือว่าเป็นซูเราะฮฺแรกของคัมภีร์
อัลกุรอานตามที่ได้มีการเรียบเรียงไว้โดยไม่ได้เรียงลำดับตามที่ถูกประทานลงมา ซูเราะฮฺนี้เป็นซูเราะฮฺที่ไม่ยาวนัก แต่ได้ครอบคลุมและประมวลเป้าหมายของคัมภีร์อัลกุรอานทั้งหมดไว้โดยสรุป ซึ่งได้พูดถึงหลักพื้นฐานทางศาสนาและแขนงต่าง ๆ เอาไว้ อันประกอบด้วยหลักอะกีดะฮฺ หลักอิบาดะฮฺ การตราบัญญัติ การศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮฺ การศรัทธาต่อคุณลักษณะของอัลลอฮ์ การขอความช่วยเหลือ การขอพร การมุ่งสู่พระองค์ โดยทางนำที่ถูกต้องและหนทางที่เที่ยงตรง หนทางของคนดี มีคุณธรรม ออกห่างจากหนทางที่จะนำไปสู่การโกรธกริ้วจากอัลลอฮ์และทางที่หลงผิด ซึ่งในซูเราะฮฺนี้มีเรื่องราวของชนในอดีต ที่ใฝ่หาความสุขโดยปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์และออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์
อิมามอะหมัดได้บันทึกไว้ในหนังสือมุสนัดของท่านว่า อุบัยย์ อิบนุ กะอับได้อ่านแม่บทของอัล- กุรอาน (ซูเราะฮฺอัลฟาตฮะฮ์) ให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมฟัง ท่านได้กล่าวว่า
“ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาในคัมภีร์เตาร๊อต คัมภีร์อินญีล คัมภีร์ซะบูร และแม้แต่ในอัลฟุรกอน (อัลกุรอาน) เหมือนเช่นนี้ มันเป็นเจ็ดโองการที่ต้องอ่านซ้ำ ๆ กันและเป็นกุรอานที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกประทานลงมาให้แก่ฉัน”
หะดีษบทนี้บ่งชี้ถึงข้อความในซูเราะฮฺอัลฮิจรฺ ที่มีความว่า “และโดยแน่นอนเราได้ประทานให้แก่เจ้าทั้งเจ็ดโองการที่ถูกอ่านซ้ำ และเป็นอัลกุรอานที่สำคัญยิ่ง” (อายะฮฺที่ 87)
มีระบุในหนังสือ ศ่อฮีฮฺอัลบุคอรียฺ ว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่อะบีสะอี๊ดบุตรของอัลมุอัลลาว่า “ฉันจะบอกให้ท่านทราบถึงอัลกุรอานบทหนึ่งซึ่งเป็นบทที่สำคัญยิ่งของอัลกุรอานคือ “อัลฮัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน” ซึ่งเป็นเจ็ดอายะฮฺที่อ่านซ้ำ และเป็นอัลกุรอานที่สำคัญยิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาให้แก่ฉัน”
ซูเราะฮฺนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อด้วยกัน อาทิเช่น ซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮฺ อุมมุลกิตาบ อัชซับอุลมะษานียฺ อัชชาฟิยะฮ์ อัลวาฟียะฮฺ อัลกาฟียะฮฺ อัลอะซ๊าซ และอัลฮัมดุ เป็นต้น โดยที่ท่านอัลลามะฮฺ อัลกุรฎบีย บอกว่า ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺมีชื่อเรียกถึง 12 ชื่อด้วยกัน
ซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ (1)
1 بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
1. ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
2 ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
2. การสรรเสริญทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
3 ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
3. ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
4 مَـٰلِكِ يَوْمِ ٱلدِّينِ
4. ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งวันตอบแทน
(1)(1) คือวันปรโลก อันเป็นวันที่มนุษย์ฟื้นคืนชีพมาเพื่อรับการตอบแทน 5 إِيَّاكَ نَعْبُدُ وَإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ
5. เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์เคารพ อิบาดะฮฺ
(2) และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวก ข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือ
(3)(2) คือมอบการเคารพอิบาดะฮ์ทุกประเภท่ให้แก่พระองค์ แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น โดยปราศจากการให้ผู้หนึ่งผู้ใด หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดมีหุ้นส่วนในการอิบาดะฮฺดังกล่าว เป็นต้นว่า การวิงวอนขอความช่วยเหลือ การบน การสาบาน และการเชือด ฯลฯ (3) ขอความช่วยเหลือในสิ่งที่อยู่นอกเหนือกฏสภาวการณ์ หรือสิ่งที่ไม่อยู่ในความสามารถของมนุษย์ที่จะให้ความช่วยเหลือได้ 6 ٱهْدِنَا ٱلصِّرَٰطَ ٱلْمُسْتَقِيمَ
6. ขอพระองค์ทรงแนะนำพวกข้าพระองค์ซึ่งทางอันเที่ยงตรง
7 صِرَٰطَ ٱلَّذِينَ أَنْعَمْتَ عَلَيْهِمْ غَيْرِ ٱلْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلَا ٱلضَّآلِّينَ
7. (คือ) ทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปราณแก่พวกเขา มิใช่ในทางของพวกที่ถูกกริ้ว
(4) และมิใช่ทางของพวกที่หลงผิด
(5) (4) หมายถึง พวกยิว เพระพวกเขาประพฤติตนฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์อยู่เสมอ และหมายถึงผู้ที่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันนั้นด้วย (5) หมายถึง พวกคริสเตียน พวกเขาหลงผิดไปว่า นะบีอีซาเป็นบุตรของอัลลอฮ์เนื่องจากนะบีอีซาเกิดจากนางมัรยัม ซึ่งเป็นหญิงบริสุทธิ์ปราศจากชายใดสมสู่นาง แต่ความจริงนั้นนะบีอีซาหาใช่เป็นพระบุตรของพระองค์ไม่ หากแต่เป็นบ่าวของพระองค์คนหนึ่ง เช่นเดียวกับบ่าวของพระองค์ทั้งหลาย จะแตกต่างก็เพียงแต่ว่า นะบีอีซานั้นเกิดจากนางมัรยัมแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่มีชายใดสมสู่นางเยี่ยงหญิงอื่น ๆ ทั้งนี้ด้วยประกาศิตของพระองค์ ดังกล่าวนี้เป็นการชี้แจงของพระองค์ไว้ในอัลกุรอาน